top of page
Grey Geometric Business LinkedIn Banner.jpg
thin-line-vat-tax-percent-260nw-1202342152.webp

1. การลงทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%)

การลงทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เป็นขั้นตอนสำคัญที่ทุกธุรกิจที่มีรายได้เกินเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดต้องดำเนินการเพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดทางภาษี การจดทะเบียน VAT จะทำให้ธุรกิจสามารถเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากลูกค้าได้ และยังมีสิทธิ์ในการขอคืนภาษีจาก VAT ที่ชำระในการซื้อสินค้าและบริการสำหรับธุรกิจด้วย

 

ขั้นตอนการลงทะเบียน VAT และเอกสารที่จำเป็น

 

การลงทะเบียน VAT สามารถดำเนินการได้ที่สำนักงานสรรพากรในพื้นที่ หรือผ่านระบบออนไลน์ โดยมีขั้นตอนและเอกสารที่ต้องใช้ดังนี้:

 

1.1 ยื่นแบบฟอร์ม ภพ.20

 

การยื่นแบบฟอร์ม ภพ.20 เป็นขั้นตอนหลักในการขอขึ้นทะเบียน VAT ซึ่งจะต้องกรอกรายละเอียดต่าง ๆ เช่น ชื่อบริษัท ประเภทธุรกิจ ที่ตั้งบริษัท และข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่บริษัทขาย จากนั้นแนบเอกสารประกอบเพื่อยืนยันการดำเนินธุรกิจตามกฎหมาย โดยเอกสารที่ต้องเตรียมมีดังนี้:

 

  • หนังสือรับรองบริษัท: เป็นเอกสารที่ออกโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อยืนยันว่าบริษัทได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลถูกต้องตามกฎหมาย

    • ตัวอย่าง: หากบริษัท 'วิกกี้อำพันพม่า' ต้องการจดทะเบียน VAT หนังสือรับรองนี้จะเป็นหลักฐานแสดงความถูกต้องของการดำเนินธุรกิจ

  • แบบฟอร์ม ภพ.01: เป็นแบบฟอร์มที่ใช้ในการขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษี เป็นขั้นตอนพื้นฐานในการลงทะเบียน VAT โดยภพ.01 จะระบุข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท เช่น ที่ตั้ง ประเภทสินค้าหรือบริการ และข้อมูลเกี่ยวกับผู้บริหาร

  • บัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้บริหาร: เพื่อยืนยันตัวตนของผู้บริหารที่มีอำนาจในการจัดการภาษีของบริษัท

    • ตัวอย่าง: หากคุณเป็นเจ้าของบริษัท คุณจะต้องใช้บัตรประชาชนและทะเบียนบ้านเพื่อยืนยันว่าคุณเป็นผู้มีอำนาจในการทำธุรกรรมทางภาษี

  • เอกสารสัญญาเช่าที่ตั้งสำนักงาน: หากบริษัทมีที่ตั้งสำนักงานที่เช่ามา จะต้องแนบสำเนาสัญญาเช่าพร้อมทั้งเอกสารยืนยันที่ตั้ง

    • ตัวอย่าง: บริษัท 'วิกกี้อำพันพม่า' มีที่ตั้งในอาคาร JTC ที่กรุงเทพฯ สัญญาเช่าที่ทำไว้กับเจ้าของอาคารจะต้องแนบไปกับการยื่นขอ VAT

  • ใบรับรองการจดทะเบียนจากกระทรวงพาณิชย์: เอกสารนี้เป็นหลักฐานว่าธุรกิจของคุณได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้องและมีสิทธิ์ในการประกอบกิจการตามกฎหมาย

 

1.2 เงื่อนไขที่ต้องพิจารณา

 

ธุรกิจจะต้องพิจารณาว่าตนเข้าเกณฑ์ในการจดทะเบียน VAT หรือไม่ โดยตามกฎหมายกำหนดให้ธุรกิจที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปีต้องทำการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้งนี้ หากธุรกิจของคุณมีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ คุณสามารถเลือกที่จะสมัครจด VAT เพื่อใช้สิทธิ์การขอคืนภาษีซื้อได้

 

1.3 การดำเนินการหลังจากจดทะเบียน VAT

 

เมื่อบริษัทได้รับการจดทะเบียน VAT แล้ว จะต้องดำเนินการดังนี้:

 

  • เริ่มคิด VAT 7% กับลูกค้า: การคิด VAT 7% จากลูกค้าเป็นขั้นตอนที่สำคัญหลังจากการจดทะเบียน โดยการคำนวณ VAT จะต้องทำการบวกภาษีเข้ากับราคาขายของสินค้าและบริการ

    • ตัวอย่าง: หาก 'วิกกี้อำพันพม่า' ขายสร้อยคออำพันราคา 100,000 บาท ทางร้านจะต้องคิด VAT เพิ่มอีก 7% คือ 7,000 บาท ทำให้ลูกค้าต้องชำระรวมเป็น 107,000 บาท

  • ออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ: ทุกครั้งที่มีการขายสินค้าและเรียกเก็บ VAT จะต้องออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ โดยใบกำกับภาษีต้องประกอบไปด้วยรายละเอียด เช่น ชื่อ-ที่อยู่ของผู้ขาย หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี วันเดือนปีที่ออกใบกำกับภาษี รายละเอียดสินค้าหรือบริการ และ VAT ที่เรียกเก็บ

    • ตัวอย่าง: เมื่อ 'วิกกี้อำพันพม่า' ขายสร้อยคออำพันและเรียกเก็บ VAT 7% ใบกำกับภาษีต้องระบุ VAT 7,000 บาท แยกจากราคาสินค้า 100,000 บาท

  • ยื่นแบบ ภ.พ.30 ทุกเดือน: หลังจากจดทะเบียน VAT แล้ว ธุรกิจต้องยื่นแบบ ภ.พ.30 ทุกเดือนเพื่อรายงานภาษีที่ได้เรียกเก็บจากลูกค้า (ภาษีขาย) และภาษีที่ได้ชำระเมื่อซื้อสินค้าและบริการสำหรับธุรกิจ (ภาษีซื้อ) โดยจะต้องชำระภาษีส่วนต่างให้กรมสรรพากรภายในวันที่กำหนด

 

ตัวอย่างสถานการณ์

 

เมื่อบริษัท 'วิกกี้อำพันพม่า' ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเรียบร้อยแล้ว บริษัทจะเริ่มคิด VAT 7% จากสินค้าหรือบริการที่ขายให้กับลูกค้า ยกตัวอย่างเช่น:

 

  • หากร้านขายสร้อยคออำพันในราคา 100,000 บาท บริษัทจะต้องคิด VAT เพิ่มอีก 7% หรือ 7,000 บาท ทำให้ลูกค้าต้องจ่ายรวมเป็น 107,000 บาท

  • หากบริษัทซื้อวัตถุดิบ เช่น หินอำพันจากพม่าในราคา 200,000 บาท และชำระ VAT 7% หรือ 14,000 บาท บริษัทสามารถนำภาษีซื้อนี้มาใช้หักลบกับภาษีขายที่ได้เรียกเก็บจากลูกค้าในการยื่นภาษีในเดือนนั้น

 

1.4 ประโยชน์จากการจดทะเบียน VAT

 

  • สิทธิ์ในการหักภาษีซื้อ: บริษัทสามารถขอคืน VAT ที่ชำระไปเมื่อซื้อสินค้าและบริการสำหรับธุรกิจ ซึ่งช่วยลดภาระภาษีและต้นทุนการดำเนินธุรกิจได้

  • ภาพลักษณ์ที่ดีต่อคู่ค้าหรือหุ้นส่วน: การที่บริษัทจดทะเบียน VAT แสดงให้เห็นว่าธุรกิจดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย สร้างความน่าเชื่อถือในสายตาลูกค้าและคู่ค้า

[BACK]     [Next]

bottom of page